ผู้เขียน หัวข้อ: จัดวางผิดชีวิตเปลี่ยน! 9 หลักการจัดหิ้งพระในบ้านอย่างไรให้เป็นสิริมงคลกับเจ้าของ  (อ่าน 5796 ครั้ง)

ออฟไลน์ เลิศชาย ปานมุข

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3893


ทุกบ้านต้องมีหิ้งพระ จะเล็กหรือใหญ่ ก็แล้วแต่ตามอัตตภาพแต่ละคน นอกจากนั้นแล้วยังมีหิ้งเทพ หิ้งรูปบรรพบุรษ หิ้งบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ใดๆ ก็ตามที่จะต้องจัดตั้งไว้ในบ้านนั้น ทุกท่านต้องการรู้ว่าจะจัดตำแหน่งอย่างไรให้ถูกกับดวงชะตา และจะต้องดูแลพิเศษอย่างไร หากดูแลไม่ดีแล้วสิ่งที่เป็นสิริมงคลของบ้านก็ย่อมกลายเป็นอัปมงคลไปในที่สุด

เคล็ดลับวิชาฮวงจุ้ยที่ถูกต้องเกี่ยวกับหิ้งบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์มีดังนี้

1. หิ้งบูชาต้องสะอาด หมั่นดูแลมิให้มีฝุ่นจับองค์พระหรือรูปเทพต้องสะอาด หากปล่อยให้หิ้งบูชาสกปรก คนในบ้านจะเจ็บป่วยและทำมาค้าไม่ขึ้นและ ควรหมั่นเปลี่ยนน้ำเปล่า และดอกไม้สดที่บูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์บนหิ้งเป็นประจำ อย่าปล่อยให้ดอกไม้แห้งเฉาคาทิ้งไว้ เพราะจะทำให้คนในบ้านมีชีวิตขึ้นๆลงๆไม่ค่อยมั่นคงเท่าไหร่

2. หิ้งพระต้องตั้งอยู่ในมุมสงบ อย่าตั้งไว้ในมุมที่พลุกพล่านของบ้าน อย่าตั้งหิ้งพระเหนือประตูซึ่งเป็นช่องทางเดินเข้า-ออก ถ้าจัดตั้งหิ้งพระในมุมที่พลุกพล่าน คนในบ้านจะมีแต่ความวุ่นวายไม่สงบสุข

3. หิ้งบูชาพระหรือเทพไม่ควรติดตั้งบนผนังเดียวกันกับผนังของห้องน้ำและห้องครัว อีกทั้งยังไม่ควรหันองค์พระหรือหน้าหิ้งบูชาไปตรงกับประตูห้องน้ำหรือห้องครัวอีกด้วย มิเช่นนั้นคนในบ้านจะเจ็บป่วย มีแต่เรื่องขัดแย้ง เงินทองรั่วไหล

4. ถ้าพักอาศัยอยู่ในอพาร์ตเมนต์หรือคอนโด ก็ควรจัดตั้งหิ้งพระให้เหมาะสม หากวางบนหลังตู้ก็ต้องดูขนาดความสูงด้วย หิ้งพระควรตั้งสูงกว่าศีรษะของคนเราไม่ควรต่ำกว่านั้น หากตั้งหิ้งพระต่ำกว่าศีรษะคนเรา จะทำให้คนในบ้านจะไม่มีโอกาสเจริญก้าวหน้า อาชีพการงานเติบโตช้า จะถูกลดตำแหน่งลดบทบาทสายงาน

5. ถ้าทำห้องพระในบ้าน ห้องพระควรสะอาด สงบ ไม่ควรนำข้าวของอื่นๆไปเก็บไว้ในห้องพระ และห้องพระไม่ควรอยู่ติดกับห้องน้ำ หรือมีประตูตรงกับประตูห้องน้ำพอดี เพราะถือเป็นลักษณะอัปมงคล

6. ไม่ควรจัดหิ้งบูชาไว้ปลายเตียงนอน ถือว่าไม่เป็นมงคลอย่างยิ่งและถ้าหลีกเลี่ยงได้ก็ไม่ควรตั้งหิ้งบูชาไว้ในห้องนอน เพราะคนเรามีกิจกรรมที่ไม่เหมาะสมต่อหน้าหิ้งพระ เช่น การผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้า หรือการร่วมหลับนอนของคู่สมรส เป็นต้น ควรจัดหิ้งพระไว้ในมุมที่ไกลจากเตียง ถ้าพักอยู่ในห้องเดี่ยว หันองค์พระหรือเทพไปทางอื่นอย่าหันหน้าหิ้งมายังทิศทางที่เตียงตั้งอยู่

7. หิ้งบูชาไม่ควรอยู่ในห้องรับแขก เพราะถือว่าเป็นบริเวณที่ค่อนข้างพลุกพล่าน ถ้าจำเป็นจริงๆก็อย่าตั้งหิ้งใกล้มุมที่ตั้งชุดเก้าอี้รับแขก และอย่าหันหน้าหิ้งบูชาเล็งใส่มุมตั้งชุดเก้าอี้รับแขกเพราะไม่ใช่ลักษณะที่เหมาะที่ควร หิ้งบูชาที่อยู่ใกล้เก้าอี้รับแขกจะมิใช่หิ้งประทับของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เมื่อความศักดิ์สิทธิ์หายไปก็ย่อมปราศจากพลังที่ดีมาปกปักรักษาหรือปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายในบ้าน

8. หากตั้งหิ้งบูชาขนาดใหญ่ จำนวนองค์พระหรือองค์เทพบนหิ้งควรมีจำนวนเป็นเลขคี่ เช่น 1,3,5,7,9องค์ ทั้งหลักฮวงจุ้ยและความเชื่อของไทยก็ล้วนระบุว่าไม่นิยมให้เป็นจำนวนเลขคู่

9. ไม่ตั้งหิ้งบูชาไว้ใต้คาน มิเช่นนั้นดวงชะตาคนในบ้านก็คล้ายถูกกดทับ ยากเจริญรุ่งเรือง และมักจะมีเรื่องให้ปวดศีรษะอยู่เสมอ

เมื่อยืนอยู่นอกบ้าน หากมองเข้าไปในบ้านแล้วไม่ควรมองเห็นหิ้งบูชาได้ถนัดชัดเจน ถ้ามองเห็นถือว่าไม่ดีควรจัดตั้งหิ้งบูชาไว้ในมุมสงบและเป็นสัดเป็นส่วน มิใช่อยู่นอกบ้านก็สามารถมองเห็นได้ แต่ถ้าเป็นร้านค้าขายถือว่าไม่เป็นไร

เมื่อท่านคิดจะตั้งหิ้งพระ ก็อย่าละเลยที่จะศึกษาตำราฮวงจุ้ยเสียก่อน ซึ่งโดยปกติแล้วทิศที่นิยม ในการตั้งพระได้แก่ทิศเหนือ และทิศตะวันออก จะเป็นทิศที่ดี ที่จะเสริมดวงชะตา และนำมาโชคลาภ มาสู่ผู้อยู่อาศัย ตามหลักดังต่อไปนี้

1. ถ้าตั้งพระพักตร์หันไปสู่ ทิศอีสาน (ตะวันออกเฉียงเหนือ)
ซึ่งเป็นทิศเศรษฐี จะประกอบการงานทำนาค้าขาย ใด ๆ ก็จะเจริญร่ำรวยยิ่ง ๆ เป็นที่หนึ่ง

2. ถ้าตั้งพระพักตร์หันไปสู่ ทิศบูรพา (ตะวันออก)
ซึ่งเป็นทิศราชา จะประกอบการงานใด ๆ ก็จะเจริญ ใหญ่โต สมความตั้งใจทุกประการ

3. ถ้าตั้งพระพักตร์หันไปสู่ ทิศอาคเนย์ (ตะวันออกเฉียงใต้)
ซซึ่งเป็นทิศปฐม ท่านว่าไม่สู้ดี ทำอะไรไม่ค่อยเจริญ ลาภผลตกต่ำพอมีพอใช้

4. ถ้าตั้งพระพักตร์หันไปสู่ ทิศทักษิณ (ทิศใต้)
ซึ่งเป็นทิศจัณฑาล ประกอบการงานอันใด แสนยาก ลำบาก ผลประโยชน์ลงทุนไปไม่ค่อยคุ้มค่า

5. ถ้าตั้งพระพักตร์หันไปสู่ ทิศหรดี (ตะวันตกเฉียงใต้)
ซึ่งเป็นทิศวิปะฏิสาร จะประกอบการงานอันใด มีแต่ ความเดือดร้อนยุ่งยากมาสู่ครอบครัวตลอด เพื่อบ้านเรือนเคียง

6. ถ้าตั้งพระพักตร์หันไปสู่ ทิศประจิม (ตะวันตก)
เป็นทิศกาลกิณี จะทำงานสิ่งใดก็เกิดลังเลใจ ไม่เป็นมงคล ระวังภัยจะเกิดกับตนร้ายแรง ถึงอัตตะวินิบาตกรรม ด้วยประการต่าง ๆ ไม่ดีเลย

7. ถ้าตั้งพระพักตร์หันไปสู่ ทิศพายัพ (ตะวันตกเฉียงเหนือ)
ซึ่งเป็นทิศอุทธัจจะ จะทำงานสิ่งใด ผลงานก็ไม่แน่นอนจับจดรวนเรไม่ได้ผล

8. ถ้าตั้งพระพักตร์หันไปสู่ ทิศอุดร (ทิศเหนือ)
ซึ่งเป็นทิศมัชฌิมาปฏิปทา จะทำงานใด ๆ ผลงานจะอยู่ในเกณฑ์พอปานกลาง ไม่ดีไม่ชั่ว

นอกจากนี้ยังมีทิศต้องห้ามไม่ให้เจ้าของบ้านตั้งหิ้งพระอีกด้วย มาดูกันว่าคุณเกิดปีไหนและห้ามไม่ให้ตั้งหิ้งพระตรงไหน

เจ้าของบ้านเกิดปีชวด ห้ามตั้งหิ้งพระบูชาหันหน้าไปทางทิศเหนือ เพราะจะส่งผลให้เจ้าบ้านเกิดอันตราย จนอาจถึงขั้นเสียชีวิต

เจ้าของบ้านเกิดปีฉลู ห้ามตั้งหิ้งพระบูชาหันหน้าไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ จะส่งผลให้เจ้าบ้าน เกิดการเจ็บป่วยอย่างกะทันหัน

เจ้าของบ้านเกิดปีขาล ห้ามตั้งหิ้งพระบูชาหันหน้าไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ จะส่งผลให้ผู้หญิงและสมาชิกในครอบครัวเกิดอันตราย

เจ้าของบ้านเกิดปีเถาะ ห้ามตั้งหิ้งพระบูชาไปทางทิศตะวันออก จะส่งผลให้เกิดความสูญเสียคนในบ้านจะเสียชีวิต

เจ้าของบ้านเกิดปีมะโรง ห้ามตั้งหิ้งพระบูชาหันหน้าไปทางทิศตะวันออก จะส่งผลให้คนในบ้านเกิดการเสียหายทั้งชายและหญิง

เจ้าของบ้านเกิดปีมะเส็ง ห้ามตั้งหิ้งพระบูชา หันหน้าไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ เพราะจะส่งผลให้คนในครอบครัวมีความยุ่งยากที่สุดจนหาความสงบสุขไม่ได้

เจ้าของบ้านเกิดปีมะเมีย ห้ามตั้งหิ้งพระบูชาหันหน้าไปทางทิศใต้ จะส่งผลให้เกิดเรื่องราวอัปมงคลขึ้นภายในบ้าน

เจ้าของบ้านเกิดปีมะแม ห้ามตั้งหิ้งพระบูชาหันหน้าไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ เพราะจะส่งผลให้ครอบครัว เกิดเรื่องร้ายแรงขึ้นอย่างไม่คาดฝัน

เจ้าของบ้านเกิดปีวอก ห้ามตั้งหิ้งพระบูชาหันหน้าไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ เพราะจะส่งผลให้เกิดเรื่องร้าย ๆ กับสมาชิกเพศชายในครอบครัว

เจ้าของบ้านเกิดปีระกา ห้ามตั้งหิ้งพระบูชาหันหน้าไปทางทิศตะวันตกเพราะ จะทำให้ความทุกข์โศกมาเยือนครอบครัวจนต้องร้องให้อยู่เสมอ

เจ้าของบ้านเกิดปีจอ ห้ามตั้งหิ้งพระบูชาหันหน้าไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ เพราะจะส่งผลร้ายให้สมาชิกในครอบครัวอย่างมาก ถึงขั้นเสียชีวิตได้

เจ้าของบ้านเกิดปีกุน ห้ามตั้งหิ้งพระบูชาหันหน้าไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือเพราะจะส่งผลให้เกิดเรื่องร้าย ๆ ในครอบครัวอยู่ตลอด เสียเงินเสียทองขึ้นโรงขึ้นศาล

ได้หลักการจัดหิ้งพระแบบง่ายๆ กันไปแล้ว ก็ลองตรวจเช็คดูนะคะว่าเราวางถูกต้องแล้วหรือยัง

ที่มา : ขอบคุณข้อมูลจาก : zazana และภาพจาก tnews