ผู้เขียน หัวข้อ: ในหลวงรัชกาลที่ 9 เคยสูบพระโอสถมวน (บุหรี่) ทรงเลิกได้ เพราะพสกนิกร  (อ่าน 3500 ครั้ง)

ออฟไลน์ เลิศชาย ปานมุข

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3740


เพราะท่านต้องการเป็นแบบเยี่ยงอย่างที่ดี แก่พสกนิกร

          พระองค์ท่านเคยสูบบุหรี่แต่เลิกบุหรี่ไปนานแล้ว (โบราณชาววังเขาสูบกันปกติ ไม่ใช่เรื่องเสื่อมเสีย แต่อย่างใด รัชกาลที่ ๕ และที่๗ก็ทรงโปรดบุหรี่ไปป์) ที้ท่านเลิกบุหรี่เพราะไม่ดีต่อสุขภาพ และท่านต้องการเป็นแบบอย่างที่ดีแก่พสกนิกร

          ถ้าไปบอกใครว่านี้รวมอยู่ในคนๆเดียว คงจะไม่มีใครเชื่อ แต่มีพระองค์มีอยู่จริง ไม่มีใครเทียบเท่าท่านได้อีกแล้วจริงๆแล้วเรื่องทรงสูบพระโอสถมวนของในหลวง พระองค์ไม่เคยทรงปิดบัง และไม่เคยปฏิเสธว่าทรงเคยสูบ เพราะในอดีตการสูบบุหรี่ไม่ใช่เรื่องน่ารังเกียจเหมือนในยุคปัจจุบันนี้

          และในหลวงก็ทรงรู้โทษภัยของการสูบบุหรี่เป็นอย่างดี เพราะโทษภัยนี้ก่อให้เกิดพระโรค แก่พระญาติสนิทของในหลวง ก็คือ สมเด็จพระชนนี และสมเด็จพระพี่นางเธอฯ รวมทั้งโรคพระหทัยของพระองค์ก็มีสาเหตุจากการสูบบุหรี่ เช่นกัน

          เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม พ.ศ.2547 มีพระราชดำรัสเกี่ยวกับภัยของบุหรี่ ใจความว่า ในหลวง รัชกาลที่ 9 เคยสูบพระโอสถมวน (บุหรี่) แต่ทรงเลิกได้ !

          ??. เราเองเริ่มสูบบุหรี่ตั้งแต่เด็ก ๆ บุหรี่ จริงไม่มี เป็นไม้ซางแห้ง ๆ สูบ ก็เด็ก ๆ เขาเล่นสูบ แต่ทีหลังเลิก มาตอนอายุ 18 ได้สูบบุหรี่ เพราะทำไม เพราะตอนนั้นสมเด็จพระบรมราชชนนีท่านบอกว่า เด็ก ๆ ห้ามสูบบุหรี่ ๆ เด็ก ๆ หมายความว่าลูกท่าน ต้องอายุ 18 ก่อน แต่ตอนนั้นอายุ 18 และก็มาหลังสงครามพอดี พวกทหารฝรั่งเขามีกระป๋องสำหรับทหาร มีอาหารยังชีพ และมีบุหรี่ 6 มวนในนั้น คนเขาก็ให้มา เราก็ลอง เวียนหัว ตอนนั้นอายุ 18 นานๆ ไปก็เลยชินแต่ว่าบุหรี่อย่างนั้นก็หมดไป หมดสงคราม

          เห็นเขาสูบบุหรี่ ก็เลยสูบตั้งแต่นั้นมาสูบบุหรี่มาจนกระทั่งทีหลังมันมีอาการหัวใจ หมอก็บอกให้เลิกสูบบุหรี่ ก็ไม่เชื่อหมอ ก็ยังอาการหัวใจต่อ จนกระทั่งหลังๆ มีบุหรี่อยู่ในห้องไม่ไหว วางไว้บนโต๊ะ ยังมีอยู่ในนั้นในซองบุหรี่มีสัก 10 มวน วางเอาไว้ไม่แตะอีกเลย เพราะว่าบอกให้เลิก เราก็เลิกทีละมวน ทีหลังเอ้ามี 2 มวน ทำไปทำมา เราก็เอาหนังสือราชการนั้นมาเอามาวางทับถุงบุหรี่ก็อยู่ใต้หนังสือราชการ ไม่รู้เดี๋ยวนี้รู้เขาคงขุดไปทิ้งหมดแล้ว แต่อยู่ใต้ที่ตั้งหนังสือนี่เข้าใจว่าประมาณปีหนึ่งไม่ได้แตะ

          เพราะว่าถ้าไปแตะ ต้องไปขุดหนังสือราชการ หนังสือราชการไม่ทำราชการนะ หนังสือราชการมาก็เอามาทำ ๆ แล้วก็เอามาตั้งต่อ แล้วก็ตั้งอยู่สูง เดี๋ยวนี้หนังสือราชการด่วนที่สุด ขึ้นมาสูงเท่านี้ ตอนหลังก็มาขุดๆๆ จนหมด แต่ยังมีด่วนมาก ด่วนที่สุด ได้ทำ 3 ธันวาคม ทำเสร็จแล้ว ก็แสดงว่าช้าไปหนึ่งวันเท่านั้น แต่ด่วน ด่วนมาก นั้นมันเดือนพฤศจิกา ประมาณ 2 อาทิตย์ต้องไปขุด เดี๋ยวกลับไปต้องไปขุด ไม่งั้นกลับไปหัวหินต้องหอบไป ไม่งั้นเดี๋ยวไม่ได้นอน ถ้าไม่นอนเดี๋ยวพรุ่งนี้เช้าตื่นไม่ไหว เป็นอย่างนี้เสมอ

          ถึงวันเกิดนี่วันเกิดก็มีการพบปะอย่างงี้ แล้วก็จะต้องไปนอน ถ้าไม่ได้นอน ถ้าไปมหาสมาคมจะร่วงลงไปทุกครั้ง พอขึ้นสูงนี่นะ เพราะว่าขาก็ไม่ค่อยดีแล้วนะ ก็เลยต้องเตรียมตัว แต่อย่างไรก็ตาม เราก็ได้มาพูดค่อยข้างจะยาวก็พอดี พอดีเวลาเหลือ 2 นาที เหลือ 2 นาที ให้ดนตรีขึ้นใหม่ ขอให้ท่านที่มาที่นี่ได้มีความแจ่มใส วันนี้รู้สึกท่านจะแจ่มใสดี ต้องแจ่มใส เพราะว่าถ้าไม่แจ่มใสทำงานไม่ได้ ต้องให้ท่านทำงานได้ แล้วก็คิดถึงงานที่จะต้องทำ ทำให้ดี ๆ ไม่ทำให้เละ ถ้าทำให้เละ ประเทศชาติก็เละ ก็ขอให้มีความสุข ความสำเร็จทุกอย่างทุกประการ?

ที่มา : เพจต่อต้านคอรัปชั่น