ผู้เขียน หัวข้อ: สายสัมพันธ์สองราชวงศ์ จากราชวงศ์พระร่วงสู่ราชวงศ์จักรี  (อ่าน 2599 ครั้ง)

ออนไลน์ เลิศชาย ปานมุข

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3726
เรียบเรียงจาก หนังสือเล่าเรื่องเมืองสยาม

         เมื่อพ่อขุนศรีอินทราทิตย์ ผู้มีเชื้อสายราชวงศ์ชัยปราการตะวันออก (ราชวงศ์เวียงชัยบุรี) ทรงก่อตั้งราชอาณาจักรสุโขทัยขึ้นในปี พ.ศ. 1781 แล้ว พระองค์ก็ได้ทรงสถาปนาตั้งราชวงศ์พระร่วง ขึ้นปกครองกรุงสุโขทัยพร้อมกันในครั้งนั้นด้วย โดยราชวงศ์พระร่วงมีพระมหากษัตริย์ปกครองสยามประเทศสืบมา 5 พระองค์ และภายหลังที่ตกเป็นหัวเมืองประเทศราชของราชอาณาจักรอยุธยาแล้วราชวงศ์พระร่วงก็มีเจ้าผู้ครองนครอีก 3 พระองค์ ก่อนจะถูกผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของราชอาณาจักรอยุทธยา
 
          ในรัชกาลสมเด็จพระอินทรราชาธิราช แห่งราชวงศ์สุพรรณภูมิ ได้ตรัสขอพระราชธิดาของพระมหาธรรมราชาที่ 4 เจ้าผู้ครองนครพระองค์สุดท้ายของราชวงศ์พระร่วง ให้อภิเษกสมรสกับเจ้าสามพระยา พระราชบุตร ซึ่งในครั้งนั้นทรงครองอยู่เมืองชัยนาท

           ต่อมาเจ้าสามพระยา ได้ปราบดาภิเษกขึ้นเป็นพระมหากษัตริย์ ทรงพระนามว่าสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 2 แห่งราชวงศ์สุพรรณภูมิ และทรงมีพระราชโอรสอันเกิดจากพระราชธิดาพระองค์นั้น ทรงพระนามว่า พระราเมศวร และในกาลต่อมาพระราชกุมารก็ได้ทรงราชาภิเษกขึ้นเป็นพระมหากษัตริย์สืบต่อจากพระราชบิดา ทรงพระนามว่า สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ ซึ่งนับเป็นพระมหากษัตริย์พระองค์แรกของราชอาณาจักรอยุทธยาที่มีเชื้อสายราชวงศ์พระร่วงและราชวงศ์สุพรรณภูมิ

          เมื่อกรุงศรีอยุทธยาเสียแก่พม่าในปี พ.ศ. 2112 พระเจ้าบุเรงนองกษัตริย์พม่าได้ทรงราชาภิเษกให้ขุนพิเรนทรเทพ ซึ่งทรงสืบเชื้อสายมาจากราชวงศ์พระร่วง ขึ้นเป็นพระมหากษัตริย์ทรงพระนามว่า สมเด็จพระมหาธรรมราชาธิราช ทำให้ราชวงศ์พระร่วงกลับเข้ามาปกครองสยามประเทศอีกครั้งในนามราชวงศ์สุโขทัย ดังปรากฏในพระราชพงศาวดารความว่า "...ฝ่ายพระบิดาเป็นเชื้อพระวงศ์สมเด็จพระร่วง พระมารดาเป็นพระญาติสมเด็จพระไชยราชา..."

         ราชวงศ์สุโขทัยสถิตสถาพรปกครองกรุงศรีอยุทธยาอยู่เพียง 61 ปี มีพระมหากษัตริย์ทั้งสิ้น 7 พระองค์ ก็ถูกสมเด็จเจ้าพระยากลาโหมสุริยวงศ์ สมุหพระกลาโหม ชิงราชสมบัติสมบัติ แล้วปราบดาภิเษกขึ้นเป็นปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์ปราสาททอง ทรงพระนามว่า สมเด็จพระเจ้าปราสาททอง โดยราชวงศ์ปราสาททองนี้แยกมาจากราชวงศ์พระร่วง เนื่องจากสมเด็จพระเจ้าปราสาททองทรงเป็นพระโอรสลับของสมเด็จพระเอกาทศรถ แห่งราชวงศ์สุโขทัย อันเกิดจากสาวชาวเกาะบางปะอิน

         นอกจากนี้ราชวงศ์ปราสาททองยังได้มีส่วนพัวพันกับราชวงศ์พระร่วงอีกประการหนึ่งคือ หม่อมเจ้าหญิงแห่งราชวงศ์พระร่วง ซึ่งทรงสืบเชื้อสายมาจากพระยาพระราม เมื่อครั้งแผ่นดินพระมหาธรรมราชา (พระยาพระรามอันเป็นพระปฐมขัตติยราชวงศ์จักรี เป็นพระญาติกับสมเด็จพระนเรศวรมหาราช แห่งราชวงศ์สุโขทัย เนื่องจากได้แต่งงานกับพระธิดาของสมเด็จพระเอกาทศรถ ) ได้เป็นพระนมของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ซึ่งต่อมาในภายหลังทรงได้รับการสถาปนาขึ้นเป็นกรมพระเทพามาตย์ เป็นที่รู้จักกันดีในพระนาม "เจ้าแม่วัดดุสิต" โดยเจ้าแม่วัดดุสิตนี้ได้ทรงเษกสมรสกับหม่อมเจ้าเจิดอุภัย แห่งราชวงศ์พระร่วง มีโอรสองค์โตคือ หม่อมราชวงศ์ปาน ต่อมาภายหลังได้รับราชการสนองพระเดชพระคุณจนได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็นเจ้าพระยาโกษาธิบดี (ปาน) ในรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช

         เจ้าพระยาโกษาธิบดี (ปาน) มีบุตรคนใหญ่ชื่อ ขุนทอง ในแผ่นดินสมเด็จพระเจ้าเสือ ได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็นที่ เจ้าพระยาวรวงศาธิราช เสนาบดีกรมคลัง

          เจ้าพระยาวรวงศาธิราช (ขุนทอง) มีบุตรคนใหญ่ชื่อ ทองคำ ในแผ่นดินสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวท้ายสระได้เป็นพระยาราชนิกูล ปลัดทูลฉลองในกรมมหาดไทย และได้ย้ายบ้านเรือนมาอยู่ที่บ้านสะแกกรัง เมืองอุทัยธานี จนมีบุตรคนใหญ่ชื่อ ทองดี จึงได้ย้ายครอบครัวกลับมาอยู่ที่ป้อมเพชร กรุงศรีอยุทธยา โดยนายทองดีนี้ภายหลังในแผ่นดินสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวท้ายสระได้เป็นที่ พระอักษรสุนทรศาสตร์

          พระอักษรสุนทรศาสตร์ เป็นบิดาของนายท้องด้วง ซึ่งต่อมาได้ปราบดาภิเษกขึ้นเป็นพระมหากษัตริย์ทรงพระนามว่า พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ปฐมกษัตริย์แห่งจักรีบรมราชวงศ์

          นายทองด้วง ผู้นี้แต่เดิมในสมัยกรุงศรีอยุทธยาได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็นหลวงยกบัตรเมืองราชบุรี เมื่อสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 4 (พระเจ้าตาก) ได้ปราบดาภิเษกขึ้นเป็นพระมหากษัตริย์ ณ กรุงธนบุรีนั้น ได้ทรงทราบดีว่าเจ้าพระยาจักรี (ทองด้วง) สืบเชื้อสายมาจากพระยาพระรามเจ้านายฝ่ายราชวงศ์พระร่วง ดังนั้นเมื่อเจ้าพระยาจักรีรบชนะอะแซหวุ่นกี้ จึงได้รับพระราชทานบำเหน็จและพระกรุณาโปรดเกล้าฯเลื่อนขึ้นเป็น "สมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก พิลึกมหึมาทุกนคราระอาเดช นเรศวรสุริยวงศ์ องค์อัครบาทมุลิกากร บวรรัตนปรินายก ณ กรุงเทพมหานครบวรทวารวดี กรุงศรีอยุทธยา"

          ในปลายสมัยกรุงธนบุรีนั้น สมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก ได้ปราบดาภิเษกขึ้นเป็นปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรี ทรงพระนามว่า พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช และจักรีบรมราชวงศ์นี้ก็ได้สืบสันตติวงศ์ ดำรงพระมหาเศวตรฉัตรเป็นสมเด็จพระมหากษัตริยาธิราชเจ้าต่อเนื่องมาไม่ขาดสาย จวบจนปัจจุบันนี้ก็เป็นรัชสมัยแห่งองค์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช อันเป็นรัชกาลที่ 9 แห่งพระราชวงศ์นี้

          ประเทศสยามได้มีพระมหากษัตริย์ ราชวงศ์พระร่วง สืบเนื่องต่อกันมาไม่ขาดสายนับตั้งแต่แรกสถาปนาพระราชอาณาจักรสยามในดินแดนสุวรรณภูมิ เมื่อ พ.ศ. 1781 และพระราชวงศ์นั้นยังดำรงสถิตสถาพรมาอยู่ทุกวันนี้ในพระปรมาภิไธยแห่งองค์พระมหากษัตริยาธิราช ผู้เป็นเจ้าของนพปฏลมหาเศวตรฉัตรเช่นเดียวกัน