ผู้เขียน หัวข้อ: คนเรา ถึงที่สุดแล้วต้องพึ่งตนเอง  (อ่าน 3099 ครั้ง)

ออนไลน์ เลิศชาย ปานมุข

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3925
... คนเรา ถึงที่สุดแล้วต้องพึ่งตนเอง ...

กาลเวลาเปลี่ยนทุกสิ่งทุกสิ่งแปรเปลี่ยนเรา

สิ่งที่เคยขัดตา วันนี้ชินตา
สิ่งที่เคยอยากได้ นาทีนี้ไม่อยากแล้ว
สิ่งที่เริ่มแรกกำแน่น ต่อมาปล่อยมือแล้ว

การสูญเสียก่อเกิดทุกขแต่หล่อหลอมความแข็งแกร่ง
ประสบการณ์แลกด้วยราคาแพงแต่เคาะจนเราได้เติบใหญ่

ไม่หลั่งน้ำตา ใช่ว่าไร้น้ำตา
ไม่เป็นไร ไม่หมายถึงไม่เหนื่อยเหน็ด

เมื่อเธอรู้ว่า อะไรคืออยากร้องไห้ไร้น้ำตา อยากร้องทุกข์ไร้วาจา
อยากหัวเราะไม่มีเสียง เมื่อนั้น เธอจึงได้เติบใหญ่!

ถึงที่สุดแล้ว คนเราต้องพึ่งตนเอง

เหนื่อยแล้วไม่มีคนใส่ใจ ก็ต้องรู้ผ่อนพัก
ร้องไห้ไร้คนปลอบ ก็เรียนรู้ยืนด้วยตนเอง
เจ็บแล้วไม่มีคนเข้าใจ ต้องแบกแรงกดไม่คร่ำครวญ

ไม่มีใครมีหน้าที่ต้องช่วยเธอ
อย่าได้ทอดทิ้งตัวเอง
ขอเพียงบากบั่นย่อมมีผลงาน
เมื่อไม่มีใครให้พึ่งพิง จึงพึ่งใจตนเอง
ยามถูกกระหน่ำตี ปลอบตัวเองไม่หยุดหย่อน

หากแม้นโลกทั้งโลกทอดทิ้งเธอ
ก็ต้องกู่ก้องว่า
ฉันเดินคนเดียวก็ได้ !!!

ความคับแค้นบางอย่างนั้น ยากจะเปล่งวาจา
แม้มีคนไถ่ถาม ก็ยากจะบอกเล่า
แม้มีคนปลอบประโลม ก็แทนตนไม่ได้

คำพูดอยู่ในปากพูดไม่ออก
ความเงียบแทนทุกสิ่ง
ในใจมีความร้าวรานแสดงไม่ได้
น้ำตาระบายทุกอย่าง

ที่ร่วมปันกับคนอื่นได้ คือสุขมากกว่าทุกข์
ที่แลกเปลี่ยนกับคนอื่นได้ คือสิ่งที่ไม่เจ็บไม่ปวด

ประสบการณ์ทั้งปวง มีเพียงตนที่รับรู้
อารมณ์ทุกอย่าง มีเพียงเราที่เข้าใจ

ความคับแค้นที่พูดไม่ออก จึงคับแค้น
ความร้าวรานลึกในใจ จึงรวดร้าว

อารมณ์บางอย่างบอกไม่ได้ เจ็บแต่ไม่พูด
เพราะเกรงจะกระทบอารมณ์คนอื่น

ยิ้มแต่ไม่พูด แต่อัดอั้นในใจตน
ในรอยแสร้งยิ้ม อำพรางความเจ็บปวดไว้เพียงใด
การฉีกเรื่องพูด ช่างเต็มไปด้วยคำพูดไม่ตรงใจ
คิดเพื่อคนอื่นเสมอ แต่ต้องเยียวยาแผลตน
ปากแข็งเสมอ แต่ใจไม่แกร่งตาม

เพราะเมตตา จึงเลือกให้อภัย
เพราะกรุณา จึงยอมรับทุกสิ่ง

แท้จริงแล้ว คนที่หัวเราะเสมอนั้น ต้องการคนใส่ใจที่สุด
ดวงใจที่ยอมรับอย่างเงียบงันนั้น ต้องการคนเข้าใจที่สุด

แต่บ่อยครั้ง ถ้าเธออภัยตัวเองได้ ชีวิตจะดำเนินต่อได้

เรื่องที่ผ่านไปแล้ว อย่าคิดมาก
ความรู้สึกลาไปแล้ว อย่าเหลียวหลังเสียดาย
เธอหวนรำลึกได้ แต่อย่าหลงงมไม่ตื่น
เธอคิดถึงได้ แต่อย่าพัวพันให้ยุ่งเหยิง

ชาค้างคืนอย่าดื่ม จะทำลายกระเพาะ
ความรักความรู้สึกที่จางไปอย่าไขว่คว้า จะเสียใจ
กระจกแตกแม้สมานได้ แต่รอยร้าวคือแผลเป็นไม่อาจลบ
ความสัมพันธ์อาจคืนกลับ แต่ความรู้สึกไม่เหมือนเดิม

ปล่อยให้สิ่งที่ผ่านไป ผ่านให้สิ้น
ให้สิ่งที่ควรมา ได้มาครบ
ขอเพียงเธอเข้มแข็ง
หากอยู่กับบาดแผลวันวาน
จักไม่มีวันได้เห็นแสงตะวันวันนี้!

เปลี่ยนหน้าต่างสักบาน จึงได้เห็นทัศนียภาพแตกต่าง
เปลี่ยนภาวะทางจิตใหม่ จึงได้อารมณ์ความรู้สึกอีกอย่าง
อย่าให้ใครอื่นมีอิทธิพลต่อจิตใจเธอ

อยู่อย่างเข้มแข็ง ไม่เป็นที่หยามหมิ่น
อยู่อย่างทระนง ไม่ก้มหัว

ชั่วชีวิตหนึ่ง จะสุขจะทุกข์ เรากำหนดเอง
อย่าต้องเปลี่ยนตัวเองเพื่อคนอื่น

ดอกไม้บานตามฤดูกาล
ไม่สนใจใครรักไม่รัก
ทะเลไม่เปล่งเสียงโห่ร้องเพื่อใคร
เพียงเพื่อการซัดสาดของวิญญาณ
เป็นคนไม่เป็นเพื่อสายตาชื่นชมของใคร
เพียงเพื่อเสรีภาพในชีวิต

เรามีเพียงชีวิตเดียว
อยู่ให้สง่างาม
ไม่ทิ้งความเสียใจให้ชีวิต!

Cr: วิภาดา กิตติโกวิท ถอดความ