ผู้เขียน หัวข้อ: ซื้อ-ล้างผักอย่างไร ห่างไกลสารตกค้าง  (อ่าน 1967 ครั้ง)

ออฟไลน์ เลิศชาย ปานมุข

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3740
     นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข และโฆษกกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ขณะนี้มีกระแสข่าวทางสื่อหลัก และสื่อสังคมออนไลน์ เรื่องสารเคมีตกค้างในผักผลไม้ ซึ่งการสร้างความปลอดภัยอาหาร จำเป็นต้องควบคุมทั้งระบบ ตั้งแต่ต้นน้ำ คือแหล่งผลิต/นำเข้าสินค้าเกษตร กลางน้ คือค้าส่ง/ค้าปลีก และปลายน้ำคือร้านอาหาร/แผงลอย/ผู้บริโภค จึงจะก่อให้เกิดความปลอดภัยตลอดทั้งวงจร โดยในส่วนของกระทรวงสาธารณสุข รับผิดชอบดูแลช่วงกลางน้ำ และปลายน้ำ เป็นการแก้ไขที่ปลายเหตุ

     นายแพทย์สุวรรณชัย กล่าวอีกว่า ข้อแนะนำในการเลือกซื้อผักสดที่สะอาด ปลอดภัย มีดังนี้ 1.เลือกซื้อผักสดที่สะอาด ไม่มีคราบดิน หรือคราบขาวของสารพิษกำจัดศัตรูพืช หรือเชื้อรา หรือกลิ่นฉุนผิดปกติ เลือกที่มีรูพรุน เป็นรอยกัดของหนอนแมลงอยู่บ้าง 2. เลือกซื้อผักสดอนามัย หรือผักกางมุ้งของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หรือแหล่งเพาะปลูกที่เชื่อถือได้ และสับเปลี่ยนแหล่งซื้ออยู่เสมอ 3. เลือกกินผักตามฤดูกาล เนื่องจากผักที่ปลูกได้ตามฤดูกาล จะมีโอกาสเจริญเติบโตได้ดีกว่านอกฤดูกาล ทำให้ลดการใช้สารเคมี และปุ๋ยลง 4 เลือก กินผักพื้นบ้าน เช่น ผักแว่น ผักหวาน ผักติ้ว ผักกระโดน ใบย่านาง ใบเหลียง ใบยอ ผัก กระถิน ยอดแค หรือผักที่สามารถปลูกได้เองง่ายๆ และ 5.ไม่กินผักชนิดใดชนิดหนึ่งเป็นประจำ ควรกินให้หลากหลายชนิดสับเปลี่ยนกัน เพื่อได้รับประโยชน์ทางด้านโภชนาการ และหลีกเลี่ยงการรับพิษสะสม

     ทั้งนี้ หากไม่แน่ใจว่า ผักสดและผลไม้ที่ซื้อมาบริโภค ปลอดภัยจากสารเคมี หรือสิ่งปนเปื้อนอื่นๆ หรือไม่ การล้างผักสด และผลไม้ที่ถูกวิธี และมีประสิทธิภาพ จะช่วยลดปริมาณการปนเปื้อนลงได้ วิธีที่ง่ายๆ สะดวก ประหยัด และเป็นวิธีการที่แนะนำ ได้แก่ การลอกเปลือกทิ้ง แช่น้ำ 10-15 นาที และล้างด้วยน้ำไหลผ่าน 2 นาที ซึ่งการศึกษาของกรมวิชาการเกษตร ระบุว่า สามารถลดสารเคมีที่เกาะติดตามผิวผักผลไม้ได้มากที่สุด ถึงร้อยละ 92

     นอกจากนี้ ยังมีวิธีใช้สารละลายอื่นๆ ในการล้าง ได้แก่ 1.ใช้น้ำเกลือ ใช้เกลือ 2 ช้อนโต๊ะพูน ต่อน้ำ 4 ลิตร 2.ใช้น้ำปูนคลอรีน โดยผสมผงปูนคลอรีน 1/2 ช้อนชา ในน้ำ 1 แก้ว คนให้เข้ากัน ทิ้งไว้ให้ตกตะกอน รินเฉพาะส่วนที่เป็นน้ำใสผสมน้ำสะอาด 20 ลิตร 3.ใช้น้ำส้มสายชู 1/2 ถ้วยต่อน้ำ 4 ลิตร 4.ใช้น้ำโซดา นำโซเดียมไบคาร์บอเนต 1 ช้อนโต๊ะต่อน้ำ 4 ลิตร และ 5.ใช้ น้ำยาล้างผัก ตามวิธีที่ผู้ผลิตแนะนำ แล้วจึงนำผักสดมาล้างด้วยน้ำสะอาดอีกครั้งส่วนผักที่มีลักษณะเป็นหัว ผล หรือผลไม้ที่กินทั้งเปลือก เช่น องุ่น ล้างด้วยน้ำผสมด่างทับทิม 10-20 เกล็ด ผสมน้ำส้มสายชู 1 ช้อนโต๊ะ และหยดสารไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ 20 หยด แช่นาน 5 นาที โดยใช้มือถูตามผิวของผล แล้วล้างด้วยน้ำสะอาดอีก 1-2 ครั้ง ซึ่งวิธีการล้างต่างๆ เหล่านี้ มีประสิทธิภาพในการลดสารเคมีกลุ่มที่ไม่ดูดซึม ได้แก่ เมทธิลพาราไธออน มาลาไธออน ได้ตั้งแต่ร้อยละ 6-92


ที่มา : http://board.postjung.com/963646.html