เกร็ดความรู้ > ประวัติบุคคลสำคัญของไทย

อังคาร กัลยาณพงศ์ กวีศรีสยาม

(1/1)

เลิศชาย ปานมุข:

ท่านอังคาร กัลยาณพงศ์ เกิดเมื่อวันอาทิตย์ ที่ ๑๓ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๔๖๙ ณ บ้านหน้าวัดจันทาราม ตำบลท่าวัง อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช บิดาเป็นกำนันตำบลท่าวัง ชื่อกำนันเข็บ มารดาชื่อแม่ขุ้ม กัลยาณพงศ์ แต่หากจะสืบสาวสายโลหิตขึ้นไปอีกจะพบว่า ทั้งฝ่ายตา ปู่ฝ่ายทวด หรือฝ่ายยายของอังคาร ล้วนแต่เป็นช่างใหญ่ทั้งนั้นทวดเป็นช่างทอง สายแม่ก็เป็นช่างทอง

ชีวิตวัยเด็ก

ชีวิตในวัยเด็กของอังคาร กัลยาณพงศ์ เป็นเด็กที่สุขภาพไม่ค่อยสมบูรณ์แข็งแรงนักเจ็บป่วยอยู่เป็นประจำ มีอยู่ครั้งหนึ่งร่างกายเคยเป็นอัมพาตเคลื่อนไหวไม่ได้ อังคารนอนนิ่งเหมือนตาย มีเพียงดวงตาที่กลอกไปมาเท่านั้นที่แสดงว่ายังมีชีวิตอยู่ จนมีหมอมารักษาด้วยสมุนไพรจนหายเป็นปกติ แต่เขาต้องเกาะราวไม้ไผ่ฝึกหัดเดินใหม่เป็นครั้งที่สอง

ชีวิตวัยเรียน

อังคารรักและหลงใหล ในกาพย์กลอนมาตั้งแต่เป็นนักเรียนชั้นประถมเขาชอบอ่านวรรณคดี เช่นรามเกียรติ์ อิเหนา ขุนช้างขุนแผน ฯลฯ

นอกจากชอบอ่านหนังสือแล้ว อังคารยังชอบวาดรูป และมักเล่นสร้างโบสถ์สร้างเจดีย์ ทำกำแพงเมืองที่ใต้ถุนบ้านอยู่เป็นประจำ เรียกได้ว่าฉายแววความเป็นศิลปินมาตั้งแต่เยาว์วัย

อังคารเรียนชั้นประถมศึกษาที่โรงเรียนวัดจันทารามและโรงเรียนวัดใหญ่พอจบชั้นประถม ๔ ก็ย้ายไปเรียนชั้นมัธยมที่โรงเรียนเบญจมราชูทิศ จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นโรงเรียนที่พระพุทธเจ้าหลวงทรงอุปถัมภ์

เมื่อเรียนจบชั้นมัธยมศึกษาในปี ๒๔๘๖ อังคารได้เข้ามาเรียนวิชาศิลปะ ที่โรงเรียนเพาะช่าง และเข้าศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยศิลปากร ในคณะจิตรกรรม? ประติมากรรม และต่อมาก็ได้ออกไปช่วยอาจารย์เฟื้อ หริพิทักษ์ คัดลอกภาพจิตรกรรมโบราณตามเมืองสำคัญต่างๆ เช่น อยุธยา สุโขทัย ศรีสัชนาลัย เพชรบุรี

เริ่มสู่ชีวิตนักกวี

ด้วยความที่มีบุคลิกการเขียนกวีที่ผิดแผกไปจากคนอื่นๆ อังคารมีความเป็นตัวของตัวเองมีความคิดที่อิสระ ไม่ร้อยรัดด้วยรูปแบบที่ตายตัว กล้าแสดงอารมณ์และความคิดเห็นออกมาอย่างตรงไปตรงมาได้อย่างน่าแปลกประหลาด ไม่ซ้ำใคร แม้ในทางฉันทลักษณ์ เขาก็ไม่ได้เดินตามแบบท่านแต่ก่อน กลอนของเขาละการสัมผัสในแบบสุนทรภู่สิ้น กาพย์ของเขาก็มิได้เลียนลีลาของเจ้าฟ้ากุ้ง โคลงของเขาก็มิได้ตกเป็นทาสของศรีปราชญ์หรือนรินทร์อินแต่แล้วข้อเขียนของอังคารก็มิได้ทิ้งแบบแผนโบราณ หากส่อให้เห็นว่าเขาทั้งเข้าใจและเคารพนับถือกวีแต่เก่าก่อน เพียงแต่เขาเขียนในสมัยของเขาเองนับเป็นกวีผู้บุกเบิกกวีนิพนธ์ยุคใหม่

ต่อมาอังคาร กัลยาณพงศ์ได้พบกับ สุลักษณ์ ศิวรักษ์ หรือ ส.ศิวรักษ์อดีตบรรณาธิการคนแรก ผู้ก่อตั้งหนังสือ ?สังคมศาสตร์ปริทัศน์? และเป็นผู้บริหารงานสมาคมสังคมศาสตร์แห่งประเทศไทยมาตั้งแต่ต้นโดย ส.ศิวรักษ์ ได้เผยแพร่ตีพิมพ์บทกวีของอังคารมาตั้งแต่สังคมศาสตร์ปริทัศน์ฉบับปฐมฤกษ์ เดือนมิถุนายน พ.ศ. ๒๕๐๖ และได้รวบรวมบทกวีที่กระจัดกระจายอยู่ตามหนังสืออนุสรณ์ต่างๆของอังคาร มาตีพิมพ์เป็นเล่มต่อสาธารณชนครั้งแรก เมื่อ พ.ศ. ๒๕๐๗ เป็นต้นมา แม้ในครั้งนั้น จะมีปฏิกิริยามาจากพวกนักเลงกลอนและผู้อ่านที่ไม่เห็นด้วยกับการเขียนบทกวีแหวกแนวฉันทลักษณ์ของอังคาร

ด้านผลงานและรางวัลเกียรติยศ

อย่างไรก็ตาม ได้มีการรวบรวมผลงานของอังคาร กัลยาณพงศ์และตีพิมพ์เป็นเล่มโดย อาจารย์สุลักษณ์ ศิวรักษ์ อีกหลายครั้ง ดังต่อไปนี้

พ.ศ. ๒๕๐๗ กวีนิพนธ์ของอังคาร กัลยาณพงศ์
พ.ศ. ๒๕๑๒ ลำนำภูกระดึง
พ.ศ. ๒๕๑๕ บางบทจากสวนแก้ว
พ.ศ. ๒๕๒๑ บางกอกแก้วกำศรวล หรือ นิราศนครศรีธรรมราช
พ.ศ. ๒๕๒๙ ปณิธานกวี
พ.ศ. ๒๕๓๐ หยาดน้ำค้างคือน้ำตาของเวลา
พ.ศ. ๒๕๔๒ กวีศรีอยุธยา

จากผลงานดังกล่าว ได้ส่งผลให้อังคาร กัลยาณพงศ์ได้รับรางวัลด้านวรรณศิลป์ ดังนี้

พ.ศ. ๒๕๑๕ ได้รับรางวัลกวีดีเด่น ของมูลนิธิเสฐียรโกเศศ - นาคะประทีป
พ.ศ. ๒๕๒๙ ได้รับรางวัล SEA WRITES ซึ่งเป็นรางวัลสร้างสรรวรรณกรรมยอดเยี่ยมแห่งเอเชีย จากบทกวีรวมเล่ม ชื่อ ?ปณิธานกวี?

จากประวัติชีวิตและผลงานดังกล่าวคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติจึงประกาศยกย่องเชิดชูเกียรติให้อังคาร กัลยาณพงศ์ เป็นศิลปินแห่งชาติสาขา วรรณศิลป์(กวีนิพนธ์) เมื่อวันที่ ๘ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๓๒ และได้เข้ารับพระราชทานโล่และเข็มเชิดชูเกียรติจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน พระราชวังดุสิต เมื่อวันที่ ๒๔ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๓๓

ชีวิตปัจฉิมวัย

ด้วยหัวใจของนักกวีผู้ยิ่งใหญ่แห่งเมืองสยาม และการใช้ชีวิตที่อุทิศให้กับงานกวีงานศิลปะ ท่านได้ใช้ชีวิตตามปณิธานกวีที่ตั้งใจสร้างสรรผลงานเพื่อยกระดับจิตใจของมนุษย์ด้วยกวีนิพนธ์ แม้ชีวิตจะมีอุปสรรคเพียงใดก็ไม่ตีโพยตีพาย ไม่ร้องขอใดใดจากใครเพราะนี่เป็นหนทางที่ตนเลือก ดังที่ท่านเคยได้ให้สัมภาษณ์ โดยได้กล่าวตอนหนึ่งว่า ?หมามันยังอยู่ได้ กวีก็ต้องอยู่ได้? และอังคารก็อยู่ได้อย่างยิ่งใหญ่เป็นผู้ยิ่งใหญ่ที่ไม่ต้องมีใครมาห้อมล้อม หากแต่ยิ่งใหญ่ด้วยผลงานทำให้เขายังคงทำงานเพื่อสังคมอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย

อังคาร กัลยาณพงศ์ ศิลปินแห่งชาติ เสียชีวิตในวัย 86 ปีหลังจากป่วยเป็นเป็นโรคหัวใจและโรคเบาหวานเรื้อรัง ประเทศไทยสิ้นกวีที่ทรงคุณค่าไปตลอดกาล




ที่มา  :  clipmass.com
ภาพ : ohozaa.com

นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ

Go to full version