ครูเลิศชาย ปานมุข

บทความดีดี => บทความดีดี คำคม ข้อคิดในการดำเนินชีวิต => ข้อความที่เริ่มโดย: เลิศชาย ปานมุข ที่ กรกฎาคม 20, 2015, 09:31:22 PM

หัวข้อ: ประจบประแจงยกยอปอปั้น คือปกติวิสัยของมนุษย์
เริ่มหัวข้อโดย: เลิศชาย ปานมุข ที่ กรกฎาคม 20, 2015, 09:31:22 PM
หิวก็หาที่พึ่ง
อิ่มก็ปลีกตัวหนี
มั่งมีก็ประจบ
ยากจนก็ตีจาก
เป็นโรคร่วมกันแห่งวิสัยมนุษย์

นิทัศน์อุทาหรณ์


(http://2.bp.blogspot.com/-r_8MmBrNR_o/UQJp4cfRBAI/AAAAAAAADao/opSFMSdWLtI/s320/Image+(28).jpg)


ผู้พึ่งเมิ่งฉางจุน

            เมื่อหิวก็ไปพึ่งอาศัยคนอื่น เมื่ออิ่มแล้วก็หันหลังตีจากไป คนอื่นได้ลาภยศก็เข้าหาประจบ เมื่อยากจนข้นแค้นก็รีบพากันหลบหนีแทบไม่ทัน ช่างน่าชังเสียจริงๆ

            ถ้าหากสามารถจะเข้าใจว่า พฤติการณ์เหล่านี้เป็นวิสัยของมนุษย์ ไม่เรียกร้องจนเกินการแล้ว  นั่นแสดงว่าตนมีใจคอกว้างขวางโอบอ้อมอารี

            มีนิทานเรืองหนึ่งมีค่าน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง

            เมิ่งฉางจุนเป็นพวกผู้ดีมีสกุลของแคว้นฉีในสมัยชุนชิว เขามีทั้งทรัพย์มีทั้งอำนาจ จึงมีคนจำนวนมากมาพึ่งพาอาศัยเขากินอยู่หลับนอนในบ้าน ในบางครั้ง พวกที่มาพึ่งพาเหล่านั้น เคยช่วยเขาออกความเห็นบ้าง จึงทำให้ตำแหน่งราชการของเขาสูงขึ้นเรื่อยๆ เมิ่งฉางจุนก็ปฏิบัติต่อคนพวกนี้ด้วยดี กล่าวกันว่า ในยุคที่รุ่งเรือง ก็มีคนมาพึ่งพาอยู่ใต้บารมีของเขาถึง ๓,๐๐๐ กว่าคน

            กิตติศัพท์โด่งดังของเมิ่งฉางจุนดังนี้ ทำให้ฉีอ๋องแห่งแคว้นฉีรู้สึกไม่สบายใจเป็นอันมาก ทรงรำพึงว่า " ไม่แน่ว่าในวันหนึ่งข้างหน้า เมิ่งฉางจุนอาจจะเข้ามาแย่งราชบัลลังก์ของเราไปครองก็เป็นได้ " ฉีอ๋องยิ่งคิดยิ่งกลัวจึงตัดสินพระทัยปลดตำแหน่งราชการของเมิ่งฉางจุนออกทั้งหมด

            ผลเป็นอย่างไร ?

            ใครๆ ก็คิดได้ออกว่า คน ๓,๐๐๐ กว่าคนที่ได้มาพึ่งพาอาศัยเมิ่งฉางจุนอยู่นั้น ต่างก็ตีจากสถานที่ที่พวกเขาเคยพึ่งพาอาศัยกินอยู่นอนหลับโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายอะไรเลยไปทีละคนสองคน มีอยู่คนเดียวที่ไม่ยอมหลีกหนีไปไหน คนคนนี้มีชื่อว่าเฝิงฮวน

            เฝิงฮวนเป็นคนฉลาดลึกซึ้ง เขาใช้อุบายหลายประการ ทำให้ฉีอ๋องเกิดความรู้สึกว่าเมิ่งฉางจุนคือเสาค้ำของแคว้นฉีอันจะขาดเสียมิได้ จึงเรียกเมิ่งฉางจุนกลับเข้ารับราชการ และรีบคืนยศถาบรรดาศักดิ์แก่เมิ่งฉางจุนตามเดิมโดยไม่รอช้า

            เมื่อเป็นดังนี้ ผู้พึ่งพาอาศัย ๓,๐๐๐ กว่าคนก็พากันกลับมาหาเขาอีก เมิ่งฉางจุนจึงพูดขึ้นด้วยอารมณ์แค้นว่า

            " ข้าพเจ้าเป็นคชอบคบค้าสมาคม แต่ไหนแต่ไรมาใครมาหาข้าพเจ้าไม่เคยปฏิเสธ ต้อนรับขับสู้เป็นอันดี แต่คนเหล่านี้พอเห็นข้าพเจ้าสูญเสียตำแหน่งไปก็รีบตีจากครั้นเมื่อข้าพเจ้าได้ตำแหน่งคืนมาพวกเขายังจะมีหน้าอะไรมาพบข้าพเจาอีก ? ต่อไปนี้ถ้าใครจะมาพบข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจะถ่มน้ำลายรดหน้ามัน แล้วขับไล่ไสส่งมันออกไปไม่คบหาสมาคมคนอีก ! "

           แต่เฝิงฮวนเตือนว่า

           " คนเราเมื่อเกิดมาแล้วก็ต้องตายเป็นเรื่องแน่นอน ผู้สูงศักดิ์เพื่อนฝูงย่อมมาก คนบากจนเพื่อนฝูงย่อมน้อย นี้เป็นสิ่งแน่นอนเช่นกัน ท่านไม่เคยเห็นผู้คนจอแจอยู่ในตลาดหรือ ? ในตอนเช้า ตลาดมีสินค้าที่ท่านต้องการซื้อมาก ต่างก็เบียดเสียดยื้อแย่งกัน ด้วยเกรงว่าจะไปช้าจะซื้อของไม่ได้ พอพลบค่ำในตลาดก็ไม่มีของดีอะไรอีก ใครยังจะไปยัดเยียดอยู่ในตลาดอีกเล่า พวกผู้พึ่งพาอาศัยตีจากท่านไป จึงไม่ควรจะโทษพวกเขา อยากจะใคร่ขอให้ท่านจงปฏิบัติต่อพวกเขาดังเช่นในอดีตเถิดจะเป็นประโยชน์เช่นเดียวกับที่แล้วมา "

           เมิ่งฉางจุนเกิดความเข้าใจในทันทีว่า ขอแต่เพียงเขาปฏิบัติต่อผู้พึ่งพาอาศัยเหล่านั้นด้วยดีต่อไป พวกเขาก็จะช่วยเหลือให้คำแนะนำที่ดีแก่ตนเฉกเช่นในกาลก่อน
            
           เมิ่งฉางจุนคิดตกดังนี้แล้ว ก็ยกมือขึ้นประสานทำความเคารพขอบใจเฝิงฮวนที่ตักเตือนให้เกิดความสำนึก และปฏิบัติในทางที่ถูกที่ควรต่อไป



หงอิ้งหมิง สมัยราชวงศ์หมิง ( สายธารแห่งปัญญา )
ที่มา  :  http://pumalone.blogspot.com/2013/01/blog-post_25.html