(http://www.panmai.com/TopTen/top01/jj20.jpg)
เล่ากันว่า ชาวคันไซในญี่ปุ่น เห็นว่า คนเราแบ่งเป็น 4 ประเภท ตามอัตราส่วน ดังนี้
คนฉลาดที่อวดฉลาด = 1 %
คนโง่ที่อวดฉลาด = 97 %
คนฉลาดที่แสร้งโง่ = 1 %
คนโง่ที่ไม่อวดฉลาด = 1 %
"คนฉลาดที่อวดฉลาด" คือ คนฉลาดที่ชอบโอ่ประโคมตัวเอง และดูถูกเหยียดหยามบริภาษผู้อื่นว่าโง่ ทั้งที่คนอื่นก็รู้อยู่ว่า เขาฉลาด นี่เท่ากับทำให้ผู้อื่นเกลียดชัง
"คนโง่ที่อวดฉลาด" หมายถึง คนที่โง่อยู่แล้ว ยังชอบอวดฉลาด พวกเราส่วนใหญ่เป็นคนธรรมดาสามัญ เรื่องที่ไม่รู้ยังมีอีกมาก แต่กลับชอบอวดฉลาด คิดเอาว่า ความไม่รู้เป็นเรื่องน่าอับอายหรือเป็นเรื่องเลวร้าย จึงชอบอวดรู้ คนประเภทนี้มีถึง 97 %
"คนฉลาดที่แสร้งโง่" คือ คนที่เก็บงำความฉลาดไว้ ร้อยคนจะมีสักคน ซึ่งน้อยมาก
ส่วน "คนโง่ที่ไม่อวดฉลาด" ไม่ขอซ้ำเติมคนประเภทนี้
ที่พจนานุกรมสุภาษิตกล่าวถึง คือ "คนโง่ที่อวดฉลาด คนฉลาดที่แสร้งโง่" ถ้าเราเอาคน 4 ประเภทข้างต้นมาเขียนใหม่ จะเข้าใจง่ายขึ้น
1. คนฉลาด อวดฉลาด
2. คนโง่ อวดฉลาด
3. คนฉลาด แสร้งโง่
4. คนโง่ ไม่อวดฉลาด
หมายความว่า ไม่ว่าคนฉลาด หรือ คนโง่ ล้วนมีจริงปลอม 2 ประเภท
ทำไมถึงมี 2 ประเภท ? เพราะพวกเราต่างรักหน้า ชอบแสดงตัวเด่นดัง หรือทำตามความพอใจ คนฉลาดที่แท้จริงมองเห็นข้อนี้ จึงสามารถวางตัวเป็น "คนฉลาดที่แสร้งโง่"
เราต่างมีสติและความรู้สึก ถ้าไม่สามารถประสานสองสิ่งนี้เข้าด้วยกันอย่างเหมาะสม ชีวิตก็จะล้มเหลว บางคนเอะอะก็พูดโอ่เหตุผลและทฤษฎีเป็นชุด ทั้งที่เหตุผลกับการปฏิบัติมันคนละเรื่องกัน แต่คนฉลาดยังคงติดยึดในกรอบของเหตุผล จึงไม่เป็นที่ยอมรับของผู้อื่น
คนมีพรสวรรค์ แท้จริงแล้วมีน้อยมาก หมายความว่า โลกนี้มีคนฉลาดน้อยมาก หากต้องการมีชีวิตที่ประสบความสำเร็จอย่างราบรื่น จะต้องอยู่กับคนส่วนใหญ่ถึง 97 % อย่างสามัคคีปรองดองและเป็นที่ยอมรับ
เนื้อความนี้จากหนังสือชื่อ "คนฉลาด แสร้งโง่" ที่เขียนโดย อิบูคิ ทาคาชิ เรียบเรียงโดย อธิคม สวัสดิญาณ
ที่มา : http://www.gotoknow.org/blogs/posts/153604